Review LG Optimus Black บางและเบาที่สุดในโลก

หลังจากที่ LG ได้ส่งมือถือ Dual-Core ตัวแรกของโลกออกมาสู่ตลาดในชื่อว่า LG Optimus 2X นั้น ก็ได้รับเสียงฮือฮากันทีเดียว และรุ่นนี้ก็ขายดีในเมืองนอกมากด้วย หลังจากนั้น LG ก็ได้ส่งมือถือรุ่นล่าสุดออกมาจับตลาด Android ระดับกลาง โดยมีชื่อว่า LG Optimus Black สำหรับรุ่นนี้นั้นมีผู้เข้าท้าชิงกับ LG ด้วยกันหลายราย อย่าง Galaxy S, Galaxy SL จาก Samsung และ Xperia Arc จาก Sony Ericsson รวมไปถึง HTC Desire S ด้วย

สำหรับ LG Optimus Black ที่ LG พึ่งเปิดตัวนี้ จะทำให้หลายๆคนมอง LG ใหม่ ด้วยภาพลักษณ์ที่ชัดเจนขึ้น กับการเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีใหม่ๆ คืออะไรบ้างนั้นมาชมกันในรีวิวนี้ได้เลยครับ

สเปก

• CPU : TI OMAP 3630 1GHz
• หน้าจอ : 4 นิ้ว NOVA Display ความละเอียด 480x800 พิกเซล
• RAM : 512MB
• ROM : 2 GB, ใส่ microSD เพิ่มได้อีก 32GB
• กล้องด้านหน้า: 2 ล้านพิกเซล สำหรับใช้งานวีดีโอคอล และถ่ายตัวเอง
• กล้องหลักด้านหลัง : 5 ล้านพิกเซล ออโต้โฟกัส พร้อมไฟแฟลช LED
• รองรับความถี่ 3G 900/1900/2100 MHz (เป็นย่านความถี่ของ AIS และ TOT)
• ระบบการเชื่อมต่อ WiFi 802.11 b/g/n, Bluetooth 2.1,microUSB 2.0 และ WiFi-Direct
• ช่องหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร, วิทยุ FM
• Gyroscope,A-GPS และเซนเซอร์ตัวอื่นๆ
• แบตเตอรี่ 1,500 mAh
• ระบบปฏิบัติการ Android 2.2.2 Froyo สามารถอัพเกรดเป็น 2.3 ได้ในเร็วๆนี้

'Black' บอดี้สีดำ บางและเบาที่สุดในโลก

รูป ร่างของ LG Optimus Black นั้นมีการออกแบบที่เฉียบคม และดูดีมีดีไซน์มากทีเดียว โดย Optimus Black นั้นมีน้ำหนักแค่ 109 กรัมเท่านั้น เบาที่สุดในโลกครับ (เบากว่า Samsung Galaxy S II ที่หนัก 116 กรัม) และมีส่วนที่บางที่สุดเพียง 6 มิลลิเมตร และส่วนที่หนาที่สุด 9.2 มิลลิเมตร

บริเวณ ด้านข้างของ Optimus Black จะมีปุ่มพิเศษเพิ่มขึ้นมาหนึ่งปุ่ม คือปุ่ม G (G-Key) โดยเป็นปุุ่มที่ใช้งานร่วมกันกับฟีเจอร์ Gesture ซึ่งเป็นการใช้การควบคุมด้วยระบบเซนเซอร์ ในการปิดเสียง จัดเรียงไอคอนบนหน้าจอ การดูภาพ การเข้าเมนูถ่ายภาพเร็ว เป็นต้นครับ

นอก จากนี้ยังมีการดีไซน์ลำโพงที่บริเวณฝาหลังในลักษณะที่เจาะเป็นช่องซ่อนเอา ไว้ ดูสวยงามมากเลยทีเดียว และลำโพงของ Optimus Black นี้ยอมรับเลยว่า "เสียงดังมาก" เปิดแล้วดังลั่นบ้านเลยทีเดียว

ด้าน ภายในของเครื่องจะมีแบตเตอรี่ขนาด 1500 mAh อยู่ และบริเวณที่จะต้องใส่ซิมการ์ดและ microSD นั้นจะต้องถอดแบตเตอรี่ก่อน จึงจะสามารถใส่เข้าไปได้ครับ

มาดูอีกภาพชัดๆ ของภายในเครื่อง บริเวณช่องใส่ซิมการ์ดครับ

ลองเปรียบเทียบความบางของ LG Optimus Black กับ iPhone 4 ดูสักหน่อย จะเห็นว่าบางกว่า iPhone 4 เล็กน้อยครับ


อะไรคือ จอแบบ NOVA? : (NOVA display)

LG ได้ใส่เทคโนโลยีจอภาพแบบใหม่ล่าสุดลงบน Optimus Black โดยจอภาพแบบนี้ชื่อว่า NOVA ซึ่งเริ่มปรากฎออกมาให้เห็นบน Optimus Black เป็นรุ่นแรกของโลกครับ (Optimus 2X ไม่ได้ใช้จอแบบนี้) ซึ่งจอแบบ NOVA นี้มีตัวเลขตามค่าที่ LG วัดมาได้นั้น มีความสว่างถึง 700 nit (จอแบบ Super AMOLED สว่างแค่ 305 nit ส่วนจอ Retina ของ iPhone 4 นั้นสว่าง 518 nit) จากตัวเลขก็จะเห็นได้ว่าจอแบบนี้มีความสว่างมากครับ

จากการใช้งาน จริงของผมพบว่าจอแบบ NOVA นี้ให้ความสว่างมาก เรียกได้ว่า Optimus Black นั้น "จอสวย ภาพคมชัด" เลยทีเดียว ภาพที่มาจากจอ NOVA นี้คมชัด เป็นธรรมชาติ และสมจริงกว่าจอแบบ AMOLED ที่ให้ค่าสีที่สดมากเกินไปครับ ด้านการใช้งานบนแดดจัดๆพบว่าจอ NOVA นี้สามารถแสดงผลบนแดดแรงๆได้เป็นอย่างดีและจอไม่มืดเลยแม้แต่น้อย "สรุปสั้นๆว่าจอ NOVA สู้แดด" ครับ

เมื่อปรับจอ NOVA นีั้ให้อยู่ในระดับสว่างที่สุด สามารถนำไปใช้เป็นไฟฉายเวลาออกไปนอกบ้านตอนดึกๆได้เลยครับ มันสว่างจริงๆ

สำหรับ multitouch ของ LG Optimus Black นั้นสามารถทำได้ทั้งหมด 5 จุด ครับ

ด้านล่างคือผลเปรียบเทียบจอ NOVA กับจอแบบต่างๆที่ใช้บนมือถือชั้นนำบนท้องตลาดในขณะนี้ครับ

ลองมาดูภาพเปรียบเทียบจอแบบ NOVA ของ Optimus Black กับจอ Retina ของ iPhone 4 กันดูนะครับ

ถัดมาคือ NOVA vs Super AMOLED ครับ จากการเปรียบกับจอของ Galaxy S กับ Optimus Black

เทียบกันตัวต่อตัว อาจจะยังเห็นความแตกต่างที่ไม่ชัดเจน เพราะฉะนั้นมาลองดูการเปรียบเทียบของจอ NOVA กับจอ Retina กับจอ Super AMOLED และจอ S-LCD ครับ

ซอฟต์แวร์, LG UI 2.0

LG Optimus Black นั้นมาพร้อมระบบปฏิบัติการ Android เวอร์ชั่น 2.2.2 Froyo ครอบด้วย LG UI 2.0 ซึ่งมีการแต่งหน้าตาออกมาในลักษณะเดียวกับ Android 2.3 เลยทีเดียว สำหรับการใช้งานโดยรวมตั้งแต่แรกใช้เครื่องพบว่า "ลื่นกว่า LG ทุกรุ่นที่สัมผัสมา" และรู้สึกว่า "ใช่มือถือจากค่าย LG แน่เหรอ?" เพราะว่า Optimus Black นั้น LG ทำส่วนของซอฟต์แวร์ออกมาได้ดีมาก เล่นแล้วไม่มีความรู้สึกว่าช้า หนืด เลยแม้แต่น้อยครับ

และถึงแม้ว่าจะยังเป็น Android 2.2 แต่ก็มีการเพิ่มในส่วนของเคอเซอร์มาให้ด้วยเวลาพิมพ์

ส่วน widget บนหน้าจอนั้น LG ก็ให้มาเยอะทีเดียวครับ พร้อมกับมีการปรับหน้าตาของการเลือก widget ใหม่ ให้ดูดีขึ้นกว่าเดิมมาก

Gesture

นอก จากนี้ Optimus Black ยังได้มีการเพิ่มในส่วนของ Gesture เข้ามาเยอะมาก (มากกว่า Galaxy S II ด้วย) เพราะมีการใช้งานร่วมกันกับปุ่ม G-Key บริเวณด้านซ้ายของเครื่องสำหรับการควบคุมเครื่องด้วยระบบเซนเซอร์อย่าง Gyroscope และเซนเซอร์อื่นๆ

โดยฟีเจอร์นั้นจะมีตั้งแต่ คว่ำเครื่องเพื่อปิดเสียง, เขย่าเครื่องเพื่อรับสาย/วางสาย, เขย่าเครื่องเพื่อเปิดกล้อง, จัดเรียงหน้า home screen โดยการเอียงเครื่อง, เอียงเครื่องขณะเปิดเว็บไซต์เพื่อเลื่อนหน้าจอ เป็นต้นครับ

ฝุ่นเข้าจอมั้ย?, กล้องแย่มั้ย?, ต้องแก้ฟอนต์อีกหรือเปล่า, ลิงค์ลอยมั้ย?

หลายๆ ปัญหาของ LG รุ่นก่อนๆ นั้นได้ถูกแก้ไขบน Optimus Black เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทั้งปัญหาฝุ่นเข้าหน้าจอบน Optimus One เมื่อมาถึง Optimus Black ปัญหานั้นไม่มีครับ ถูกแก้ไขไปแล้ว ส่วนถ้าถามว่ากล้องของรุ่นนี้แย่เหมือน Optimus 2X หรือไม่นั้น ต้องดูตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องของ Optimus Black จากด้านล่างครับ และสุดท้ายหลายๆคนอาจจะรำคาญฟอนต์ Angsana ที่ติดมาใน LG ทุกๆรุ่น Optimus Black ได้แก้ไขฟอนต์แล้วครับ โดยได้กำหนดฟอนต์มาตรฐานมาเป็นฟอนต์ droidsans ครับ นอกจากนี้ปัญหาด้านลิงค์ลอยก็ไม่มีอีกต่อไปแล้ว เรียกได้ว่าซื้อมาใช้แล้วไม่ต้องกังวลครับ

ยิ้มหน่อยจะถ่ายรูปแล้ว

กล้อง ของ LG Optimus Black นั้นให้ความละเอียดกล้องหลักมาที่ 5 ล้านพิกเซล มีไฟแฟลช LED (แฟลชแรงมาก) และยังมีออโต้โฟกัสอีกด้วย โดยส่วนของด้านกล้องนี่จะได้เปรียบ Galaxy S หรือ Galaxy SL เพราะว่ามีไฟแฟลชนั่นเองครับ โดยกล้องของ Optimus Black ต้องยอมรับว่า LG ทำกล้องออกมาได้ดีมากครับ ถ่ายภาพออกมาได้ชัด และให้สีที่ดีมากเลย สามารถถ่ายวีดีโอ HD ได้ที่ความละเอียด 720p ที่ 30 fps ครับ  ส่วนกล้องด้านหน้านั้นมีความละเอียด 2 ล้านพิกเซล สำหรับทำวีดีโอคอล และถ่ายรูปตัวเองครับ ซึ่งถือว่าให้ความละเอียดกล้องมาเยอะกว่ามือถือในระดับเดียวกัน (Galaxy S, SL มีกล้องหน้าความละเอียด 0.3 ล้านพิกเซล)

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหลังของ Optimus Black โดยไม่มีการปรับแต่งใดๆ

สรุป

LG Optimus Black เป็นมือถือที่ดีที่สุดของ LG ในขณะนี้ก็ว่าได้ เพราะมีครบครันทั้งความเบา ความบาง และความชัดของกล้องถ่ายรูป และกล้องยังมีแฟลช LED อีกด้วย เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบของใหม่ เพราะให้มาทั้งจอแบบ NOVA และปุ่ม G-Key ที่ไม่มีใครเหมือน

ข้อดี

• จอ NOVA สว่างที่สุดในโลก
• ถ่ายรูปชัด
• มี Gesture เยอะ
• LG UI ใช้งานง่าย
• มี WiFi-Direct
• กล้องหน้า 2 ล้านพิกเซล มากที่สุดในมือถือ Single-core
• เบาและบางมาก

ข้อเสีย

• ยังเป็น Android 2.2 Froyo อยู่

ราคา

LG Optimus Black ราคา 13,900 บาท เตรียมขายแบบเป็นทางการที่งาน Thailand Mobile Expo 2011 Hi-End